วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

IT Learning Journal-ครั้งที่2

ครั้งที่ 2 : 16/11/2010
Information Technology
ทุกหน่วยในองค์กรจำเป็นต้องใช้ระบบสารสนเทศน์

Information Systems : Concept and definition
Data หรือ ข้อมูล
คือ ข้อมูลดิบที่มีอยู่จริงยังไม่ผ่านกระบวนการ

ระบบสารสนเทศน์ (information)
คือ การนำข้อมูลมาผ่านกระบวนการอะไรสักอย่างได้เป็นสารสนเทศน์ เช่น พิมชนกได้เกรดเอ วิชาหนึ่ง  พยายามที่จะได้ข้อมูลมา โดยไม่ว่าวิธีใดก็ตาม เพื่อแยกประเภทแล้วนำไปใช้ กระบวนการต่างๆจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีร่วมด้วย

ระบบสารสนเทศน์มีความสำคัญอย่างไร
ทุกองค์กรมีข้อมูล (data) เยอะมาก แต่ไม่สามารถที่จะนำเข้าระบบได้ ระบบสารสนเทศน์จะช่วยให้องค์กรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น หน่วย Sales เมื่อมีลูกค้าสั่งของมา ก็ต้อง deal กับหน่วย Accounting เพื่อเช็คว่าลูกค้ามีเครดิตหรือไม่ ต้องมี connection เพื่อให้ business transaction ดำเนินไปได้
นอกจากนี้ ระบบสารสนเทศน์ยังช่วยให้องค์กรเกิดแนวคิดทางธุรกิจใหม่ๆได้

Level of information system
·         Personal and Productivity system เป็นระบบสนับสนุนระดับบุคคลเพื่อให้ทำงานง่ายขึ้น เช่น PDA
·         Transaction Procession system ระบบที่คอยดูแลรายการทางธุรกิจทั้งหมดขององค์กร transaction คือการเปลี่ยนแปลงจากจุด A ไปยังจุด B ระบบนี้ยังไงต้องมีทุกองค์กรแน่ๆ เป็นระบบ basic สุด และที่มีความสำคัญที่สุดขององค์กรเลยก็ว่าได้
·         Functional and management information system คอยรองรับหน่วยงานต่างๆในองค์กร เช่น ในหน่วยหนึ่งมีระบบสารสนเทศน์ที่ใช้ในหน่วยงานของตัวเอง แต่อาจไม่เชื่อมกับหน่วยงานอื่น เพราะข้อมูลบางอย่างเป็นความลับ ส่วนระบบงานสารสนเทศน์ในแนวนอนจะช่วยให้ทุกระบบเชื่อมต่อข้อมูลกันได้
·         Enterprise system คือระบบที่จะเชื่อมหน่วยงานทุกหน่วยงานในองค์กรได้ หรือแม้แต่เชื่อต่อไปยังนอกองค์กร เช่น เชื่อมต่อกับลูกค้า กับซัพพลายเออร์ เป็นต้น
·         Interorganizational system หน่วยที่จะเชื่อมแต่ละหน่วยในแต่ละประเทศเข้าด้วยกัน
·         Global system คล้ายกับ Interorganizational system
·         Very large and special system ไม่ใช่แค่ในองค์กรใหญ่ มันยัง deal กับองค์กรเล็กๆด้วย และสามารถเชื่อต่อกันได้ทั่วโลก

Type of biz inf system
·         Transaction Procession system (TPS) ระบบนี้ยังไงต้องมีทุกองค์กรแน่ๆ เป็นระบบ basic สุด และที่มีความสำคัญที่สุดขององค์กรเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเก็บข้อมูลรายวันขององค์กร เช่น ข้อมูลการสั่งซื้อ ข้อมูลการมาทำงานของพนักงาน การลาป่วย เป็นต้น ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้จะถูกส่งต่อไปยัง Management Information System เพื่อให้ผู้จัดการประเมินต่อไป
·         Management information system  (MIS) ผู้บริการระดับกลางจำเป็นต้องใช้ เพื่อใช้ในการตัดสินใจ ซึ่งดูจาก MIS Report หรือเอาข้อมูล TPS มาสรุป เพื่อให้เปรียบเทียบกันได้ ส่วนอีกความหมายหนึ่งคือสาขาวิชาการสร้างระบบสารสนเทศน์ทางธุรกิจ 
ข้อมูลเกือบทุกองค์กรมาจากการบันทึกความเป็นไปในองค์กร จาก TPS แล้วส่งมาถึง MIS เพื่อรวมประมวลให้ผู้จัดการระดับกลางไปใช้ การที่ข้อมูลตั้งต้นผิดไป ผู้บริหารอาจตัดสินใจผิดได้ หรือที่เรียกว่า GIGO (Garbage in Garbage out)  ดังนั้นต้องมีระบบควบคุมระบบ TPS เพื่อป้องกันความผิดพลาดดังกล่าว
·         Decision support system (DSS) ป็นสารสนเทศน์ที่ช่วยในการตัดสินใจ เป็น non-routine Decision  โดยใช้ข้อมูลทางสถิติมาช่วย แต่ MIS แค่รายงานผลในอดีต แต่ DSS จะเป็นการนำข้อมูลจากภายนอกมาประกอบด้วย เช่นดูราคาน้ำมัน ดูตลาดโลกด้วย เป็นต้น มักเป็นข้อมูลเชิงกลยุทธ์มากกว่า MIS
·         Group decision support system (GDSS) การตัดสินใจเป็นกลุ่มต้องมีระบบสารสนเทศน์ที่พร้อมเพื่อให้การตัดสินใจดำเนินไปได้ รวมทั้งต้องมีเทคโนโลยีประกอบทำให้การตัดสินใจเป็นกลุ่มใหญ่จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
·         Exceutive support system (ESS) เป็นระบบเพื่อ CFO CIO และเป็นระบบที่ต่อยอดจาก  TPS MIS DSS รวมถึงข้อมูลจากภายนอก เช่น downjones ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต เป็นต้น และเป็นระบบสำหรับ Executive ที่จะนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในการตัดสินใจวางกลยุทธ์และทิศทางขององค์กรโดย output มักเป็นกราฟ Dashboard เพื่อให้เห็นถึงการเปรียบเทียบที่ชัดเจน

Enterprise application
คือพวกซอฟท์แวร์  เช่น ERP, Supply chain management system, ที่องค์กรใช้เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆในองค์กร เป็นระบบที่ใช้งานได้ใน Cross Function เป็นระบบที่ช่วยประสานหน่วยงานต่างๆในองค์กร เช่น  ERP เป็นต้น โดยระบบนี้จะเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดในองค์กรอาจรวมไปถึงข้อมูลภายนอกไว้ในระบบส่วนกลางและอนุญาตให้หน่วยงานต่างๆแชร์ข้อมูลระหว่างกันได้

·         Enterprise system เป็นการรวบรวมข้อมูลจากทุกฝ่ายมาเก็บ และสามารถแบ่งข้อมูลกันได้
·         Supply chain management system ข้อมูลต้นน้ำปลายน้ำ การที่จะจัดการจุดต่างๆจาก origin ไป end-user
·         CRM บริหาร+รักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เพื่อให้อยู่กับเราไปนานๆ เช่น AIS แบ่งกลุ่มลูกค้าชั้นดี-Seranade และจะได้รับบริการที่รวดเร็วกว่า หรือบริษัท Salesforce มีdashboard ประมวลผลผ่านซอฟท์แวร์ได้ทันที ผ่าน SAAS (software as a service) ข้อดีคือระบบอยู่ในอินเตอร์เน็ตเลย และไม่แพงเหมือนกับการสร้างเอง อยากใช้เท่าไรก็จ่ายเท่านั้น เป็นระบบ lease
หรือพวก amazon ของมักขายได้ตาม season ยอดขายมาจาก 3 เดือนหลัง การใช้ระบบแบบนี้จะดีกว่า
·         Knowledge management system เก็บความรู้ที่อยู่ในองค์กร และสามารถนำไปใช้ต่อได้ นำมาแชร์กันในองค์กรได้ ความรูอาจอยู่ในรูปต่างๆได้ เช่น อีเมล, text-mining  เป็นต้น องค์กรต่างๆอาจมีระบบ E-learning best practice เป็นต้น

Knowledge มี 2 แบบ คือ
o   Explicit knowledge  คือความรู้ที่สามารถอธิบายได้ โดยองค์กรจะพยายามเก็บความรู้ที่ชัดแจ้งไว้ภายในระบบมากที่สุด
o   Tacit knowledge ความรู้ที่ไม่ชัดแจ้ง คือไม่สามารถอธิบายได้
·         Intranet ต่างกับอินเตอร์เน็ต ที่เป็นการเชื่อทั่วโลก แต่อินทราเน็ต เป็นการเชื่อข้อมูลภายในองค์กร ไม่secure เพราะ
·         Extranet เน็ตเวิร์คไพรเวทที่องค์กรเชื่อต่อกันภายนอก เช่น องค์กร เอ บี ซี หรือใช้เน็ตเวิร์คเชื่อมต่อกันแต่ละองค์กร มีความปลอดภัยสูงกว่า คนเจาะระบบพวกนี้ยากมาก
·         Collaboration and communication system เทคโนโลยีที่ส่งเสริมการร่วมไม้ร่วมมือกันทั่วทั้งองค์กร เช่น
o   e-mail, IM (Inter messaging)
o   Social network อย่าง facebook หรือบางองค์กรอาจสร้างขึ้นมาเอง เพราะต้องการให้คนในองค์กรมีเน็ตเวิร์คกัน
o   Wikis หลายๆคนที่เชียวชาญในเรื่องนั้นๆ ช่วยกันเขียน
o   Vitual world เช่น เกมออนไลน์  หรือธนาคารกรุงศรีสร้างแบงค์ออนไลน์ ให้คนเข้าไปใช้บริการได้ หรืออย่างบริษัท Second life
·         E-biz ทำเพื่อค้าขายระหว่างองค์กร
·         E-gov เช่นมีให้เสียภาษีออนไลน์ได้

Information system department
เป็นหน่วยงานหนึ่งในองค์กร ไม่ใช่ศูนย์ซ่อมคอม แต่เป็นหน่วยสนับสนุนข้อมูลในองค์กร และรู้เรื่องเทคโนโลยีต่างๆ  Information system ทำหน้าที่ในแนวนอน คือ ช่วยซัพพอร์ตหน่วยอื่นๆ
ตำแหน่งใหญ่สุดในด้านนี้ : CIO หรือบางคนอาจเรียก CTO

Note: เทคโนโลยีมาแรง Web 2.0 เวอร์ชั่นแรก พวก user มันขึ้นไปหาข้อมูล เล่นอีเมล ส่วนคนที่ผลิตข้อมูลมักเป็นพวก content media ส่วนเราเป็นแค่ผู้ใช้ แต่ปัจจุบัน เช่นพวก twitter, facebook, youtube เป็นการที่เราสร้าง content เอง
จึงสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ดีมากขึ้น

Emerging Computing Environments
o   3G
o   Web service ใช้อินเตอร์เน็ตให้บริการต่างๆ
o   Utility computing เมื่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตเป็นสาธารณูปโภค ก็จะเกิดธุรกิจใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์ใหม่ และเปลี่ยนวิถีชีวิตความเป็นอยู่
o   Grid computing

A Future of Pervasive Computing
เทคโนโลยีอยู่ทั่วตัวเราทุกที่ ดังนั้นจึงเป็นการเพิ่มการได้มาซึ่งรายได้ทางธุรกิจ

Open source code software
เป็นซอฟท์แวร์ที่ได้การพัฒนามาเพื่อแสวงหากำไร คือไม่พัฒนาให้เต็มที่ไปเลย เขาจะค่อยๆปล่อยออกมา  หรืออาจทำออกมาเพื่อให้เราต้องค่อยอัพเดทเวอร์ชั่นโดยการจ่ายซื้อค่าลิขสิทธิ์

Virtualization
พยายามทำให้เซิร์ฟเวอร์หลายตัวมารวมเป็นตัวเดียว เพื่อเซฟเงิน และสร้างความเสถียร

Hype cycle

Electronic Paper (E-paper)
เพราะกระดาษมันใช้ซ้ำไม่ได้ จึงเกิดเป็นขยะจำนวนมาก ต่อมามีการใช้คอมพิวเตอร์และจอแอลซีดี แต่ข้อเสียคือคอมมันเคลื่อนย้ายลำบาก เปราะบาง และจอไม่สามารถอ่านได้ท่ามกลางแสงแดด แต่แอลซีดีมีข้อดีคือ อ่านกลางแดดได้ ขนาดเล็ก และประหยัดไฟกว่า ส่วนความคมชัดจะเปลี่ยนไปตามมุมมอง แต่อย่างไรก็ตามจอแอลลซีดีมีราคาสูงกว่า
จากปัจจัยดังกล่าวจึงเกิดเป็นแนวคิดในการสร้างอีเปเปอร์
เทคโนโลยีคือ เป็นการเลียนแบบหมึกปรกติ และการใช้แบล็คไลท์จะให้ความสว่างในแต่ละพิกเซล และสะท้อนแสงได้เหมือนกระดาษ และอ่านได้ไม่ว่าจะอ่านมุมไหน นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกข้อความโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า และมีน้ำหนักเบา ทนทาน และโค้งงอได้ไม่เหมือนจอแบบอื่น
                อีเปเปอร์ Gericon เริ่มแรกคล้ายกับเม็ดพลาสติกทรงกลมขนาดเล็ก การบันทึกข้อมูลใช้กระแสไฟฟ้าเข้ามาทำให้เกิดเป็นสี ต่อมาเปลี่ยนเป็นแบบแคปซูล ทำให้บันทึกข้อมูลง่ายกว่า บริษัทแรกที่ผลิตคือ อีอิงค์  การทำงานจะคล้ายๆแพลทแปลอักษร ต่อมามีค่อย Bridgestone ผลิตเป็นหนังสือพิมพ์, บริษัทไซโก้ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลของอีเปเปอร์ ข้อดีคือ ประหยัดพลังงาน

Tablet PC
เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา เข้าเครือข่าย wi-fi 3G อาจเป็นแบบ touch screen  หรือปากกา something มักมีไว้เพื่อความบันเทิง เช่น ดูหนัง ฟังเพลง
ตัวอย่างบริษัทที่เริ่มผลิตเช่น apple ผลิต apple newton ที่ตอนหลังพัฒนาเป็น iphone บริษัทปาล์ม ผลิต palm pirot เป็นต้น
ต่อมามีบริษัทผลิต tablet PC มากขึ้น แต่ต้นทุนสูงกว่าการผลิต labtop จึงมีการผลิต multi touch screen  เพิ่มขึ้น ต่อมามีพัฒนาการผลิตเป็น iphone และ ipad ต่อมา
ข้อดีของ Tablet PC
o   รันด้วยระบบปฏิบัติการที่ทันสมัยที่สุดของไมโครซอฟท์ ระบบปฏิบัติการ Windows XP Tablet PC
o   ช่วยให้คุณสามารถขยายการใช้งานเครื่อง PC
o   สามารถทำงานได้จากทุกที่
o   น้ำหนักเบา พกพาสะดวก

ข้อเสียของ Tablet PC
o   หน้าจอความละเอียดต่ำกว่า
o   เหมาะกับการใช้งานคนเดียว เพราะมีความสามารถในการจดจำลายมือของผู้ใช้
o   เนื่องจากจอเป็นแบบ touch screen  จึงมีโอกาศที่หน้าจอจะเสียหายมากกว่า
o   ความจุของฮาร์ดไดร์ฟมีราคาแพงกว่าในขนาดเดียวกัน
การนำมาใช้ในธุรกิจ
เช่น ในธุรกิจประกันภัย ทำให้พนักงานเคลมประกันได้ข้อมูลรวดเร็ว ธุรกิจซื้อขายหุ้น ทำให้สามารถติดตามราคาหุ้นการเปลี่ยนแปลงราคาหลักทรัพย์ได้ตลอดเวลา

ปัจจุบัน Tablet PC เริ่มมีความต้องการมากขึ้นทั้งทางด้านบุคคลธรรมดา และธุรกิจ ทำให้เกิดแรงกดดันใน Tablet PC ให้เกิดการพัฒนามากขึ้น

Green IT
แนวคิดในการบริหารจัดการทางธุรกิจโดยเทคโนโลยี และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คือใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการทางธุรกิจ เป็นคอนเซ็ปต์คล้าย CSR ซึ่งจริงๆแล้ววัตถุประสงค์หลักที่ทำกรีนไอทีคือ ช่วยเซฟเงินให้กับองค์กรได้
ปัจจุบันกรีนไอทีมีบทบาทอย่างมากในการบริหารจัดการด้านไอทีในสำนักงาน เพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรไอทีให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ ยังเป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เป็นปัจจัยให้เกิดภาวะโลกร้อน ดังนั้น กรีนไอทีจึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้ไอทีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หน่วยงานหลายแห่งทั่วโลกต่างให้ความสำคัญในการรณรงค์และนำแนวคิดด้านกรีนไอทีไปปรับใช้กันอย่างแพร่หลาย

ตัวอย่างแนวโน้มกรีนไอที
ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัวเว็บไซต์ Hohm รุ่นเบต้า โดยเป็นเว็บแอพพลิเคชั่นที่ใช้แสดงข้อมูลวิธีการประหยัดพลังงานไฟฟ้าและแก็ส
HP กำลังสร้างศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ที่เมือง Wynyard ในอังกฤษ ความพิเศษคือศูนย์ข้อมูลแห่งนี้อยู่เกือบติดทะเล และระบายความร้อนด้วยลมธรรมชาติ ส่วนการทำงานของมันคือ จะมีพัดลมขนาดใหญ่ดูดลมภายนอกไปใช้ระบายความร้อน ลมที่ถูกดูดเข้าไปจะผ่านตัวกรองฝุ่นและสิ่งสกปรกออก ก่อนที่จะเอาไปวิ่งผ่านเครื่องเซิร์ฟเวอร์ โดยจำกัดอุณหภูมิให้คงที่ที่ประมาณ 24C

ประโยชน์ที่องค์กรจะได้รับจากกรีนไอที
o   ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย
o   เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ IT
o   ส่งเสริมภาพลักษณ์ของบริษัท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น